ที่ปักกิ่ง 28-29 พฤศษาคม 2562
สมาคมวิจัยวัรรณกรรมนานาชาติ ประเทศจีนและสมาคมสืบทอดวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้จัดสัมมนาเรื่อง"การเดินทางไปตามหารากฐานวัฒนธรรมดั่งเดิม ยอดเยี่ยมของจีo
ได้เชิญผมไปร่วมสัมมนา พร้อมให้เกียรติผมไปกล่าวปราศรัยในงานด้วย บทความปราศรัยของผมได้รับความสนใจและให้ความสำคัญจากสื่อหลายหน่วยงานในประเทศจีนและยังมีบางสื่อได้นำบทปราศรัยนี้ไปตีพิมพ์ เผยแพร่สู่สาธารณชน ผมจึงนำบทปราศรัยนี้มาตีพิมพืเผยแพร่
เรียนท่าน ผู้นำของสมาคมวิจัยวรรณกรรมนานาชาติแห่งประเทศ ท่านอาจารย์ทั้งหลาย สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ
ก่อนอื่นผมขอขอบคุณสมาคมวิจัยวรรณกรรมนานาชาติแห่งประเทศจีน และสามาคมสืบทอดวัฒนธรรมแห่งชาติที่ให้การสนับสนุน และเปิดโอกาสให้ผมได้มีส่วนร่วมในการสัมมนา "การเดินทางไปตามหารากฐานวัฒนธรรมดั้งเดิมอันยอดเยี่ยมของจีน"ในครั้งนี้ และยังให้เกียรติผมได้ยืนบนเวทีนี้กล่าวปราศรัยเกี่ยวกับ ชีวิตของผมในหลายทศวรรษที่ผ่านมาที่ผมได้ศึกษาเรียนรู้ภาษาจีนพร้อมผูกพันอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน
ผมเป็นคนไทยเชื้อสายจีน เมื่อผมอายุสิบสี่ปี ผมได้เดินทางมาประเทศจีนพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นในในเดือนพฤษภาคม ปี 1957 ผมเรียนหนังสือที่กวางโจวเป็นเวลาหนึ่งปีจากนั้นย้ายไปที่กุ้ยหลินเพื่อศึกษาต่อ ขณะที่ผมศึกษาอยู่ภาคเรียนแรกของปีที่สองในโรงเรียนมัธยม เนื่องจากพ่อของผมป่วยหนัก ผมจึงต้องรีบกลับประเทศไทยเพื่อช่วยดูแลธุรกิจครอบครัว ถึงแม้ว่าผมจะได้เรียนหนังสือเพียงไม่กี่ปีในโรงเรียนมัธยมของประเทศจีน แต่ด้วยว่าผมมีนิสัยรักการอ่านและการเรียนหนังสือมาตั้งแต่ชั้นประถม ดังนั้นไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ผมก็จะมีหนังสืออยู่ในตัวเล่มหนึ่ง เมื่อผมมีเวลาผมก็จะเปิดมันมาอ่านและบางครั้งในวันอาทิตย์ผมจะขลุกอยู่ที่ห้องสมุดของโรงเรียนเกือบตลอดทั้งวันเพื่ออ่านหนังสือ จากการอ่านหนังสือจีน ผมได้ค้นพบคลังสมบัติทางปัญญาขนาดใหญ่ มันเป็นความรู้ทางวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยมที่บรรพบุรุษและนักปราชญ์ของจีนได้สืบทอดกันมาเป็นเวลานับพัน ๆ ปี ความรู้และภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่ามากมายมันคุ้มค่าสำหรับพวกเราที่จะเรียนรู้และถ่ายทอดให้กับคนรุ่นหลัง สำหรับตัวผมตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบันนี้ ผมพยายามศึกษาค้นคว้าความรู้และวัฒนธรรมของมันอย่างต่อเนื่อง
ชีวิตคือความไม่แน่นนอน
ท้องฟ้าจู่ๆก็มีพายุ ในวันๆหนึ่งเราอาจเผชิญทั้งโชคดีและโชคร้าย
ฟ้าไม่อาจปิดกั้นความพยายามของคน
ความลำบากในการปีนข้ามภูเขา ไม่สู้ความพยายามของคนที่จะพิชิตอุปสรรค
ปลายอุโมงค์จะเจอแสงสว่าง
ความล้มเหลวเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
คติสำนวนเหล่านี้เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษนักปราชญ์จีนได้กล่าวไว้เป็นเวลานับพันปี สรุปว่าการเดินทางในเส้นทางชีวิตของคนเราจะต้องพบทั้งโชคดีและโชคร้าย ในเวลาเดียวกันมันก็เปรียบเหมือนแสงจากไฟฉายส่องนำทาง เป็นเข็มทิศชีวิตที่เป็นแรงบันดาลใจและชี้นำลูกหลานชาวจีนให้มีความกล้าหาญในการดำเนินชีวิต ในการเดินทางในเส้นทางชีวิตของผม ผมเคยประสบความล้มเหลวมากมายทั้งในด้านอาชีพและสุขภาพ ในการทำธุรกิจของผม ผมได้พบกับวิกฤติที่เกิดจากปัจจัยภายนอก ความวุ่นวายทางการเมืองและเศรษฐกิจในประเทศไทย มันส่งผลร้ายแรงมากจนผมเกือบจะล้มละลาย (แต่ผมจะไม่พูดถึงรายละเอียดเพราะเวลาจำกัด) แต่ทุกครั้งที่ผมอยู่ในช่วงวิกฤติที่ยากลำบาก ผมมักจะนึกถึงคำพูดของบรรดานักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ในประเทศจีน เมื่อชีวิตของพวกเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากและสิ้นหวัง พวกเขากล้าที่จะเผชิญหน้ากับความจริงและเรียนรู้จากความล้มเหลว มีจิตวิญญาณของการเดินต่อไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ เพื่อเพิ่มความมั่นใจและสร้างพลังให้กับตัวผมเอง และพยายามหาทุกวิถีทางฝ่าฟันอุปสรรคและความลำบากจนสามารถหลุดพ้นจากวิกฤตครั้งแล้วคร้งเล่า ในด้านสุขภาพร่างกายของผม ตั้งแต่ยังหนุ่มจนถึง 50 ปี ผมเคยถูกอาการโรคร้ายต่างๆรุมเร้าทำร้ายจนเกือบเอาตัวไม่รอด เมื่อผมอายุ 24 ปี ผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ร้ายแรง ทำให้บาดเจ็บสาหัสที่หัวเข่า หลังจากได้รับการรักษาติดต่อกันเป็นเวลา 14 ปีด้วยวิธีการแพทย์แผนปัจจุบัน ก็ยังไม่ดีขึ้น ในทางตรงกันข้ามกลับแย่ลงเรื่อยๆ ในที่สุดแพทย์วินิจฉัยว่าโครงสร้างทั้งหมดของหัวเข่าของผมเสื่อมโทรมและเสียหาย และจะต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวเข่าโดยเร็วที่สุด มิฉะนั้นขาทั้งสองจะค่อยๆหดตัวเหมือนเท้าของนกหรือจะต้องตัดขาและใช้ขาเทียมแทน ช่วงเวลา 14 ปีในการรักษาหัวเข่าของผม สุขภาพร่างกายของผมก็แย่ลงเรื่อยๆ ผมได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคแผลในกระเพาะอาหารเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน และยังเป็นโรคเบาหวานและเป็นหวัดอยู่บ่อยๆ สายตาก็เริ่มมัว อ่านเขียนหนังสือไม่ชัด
แต่โชคดีที่ตอนอายุ 38 ปี ผมไม่ได้ทำการผ่าตัดตามคำแนะนำของแพทย์ ผมใช้พลาสเตอร์ กอเอี๊ยะชนิดหนึ่งที่ผลิตในฮ่องกงแปะบริเวณที่ปวดเข่า พร้อมกับการออกกำลังกายจ๊อกกิ้งอยู่กับที่ด้วยเท้าเปล่า ในช่วงเวลาหกเดือนของการรักษาหัวเข่าด้วยตัวเอง ตะกอนจำนวนมากที่ประกอบด้วยสารพิษทั้งน้ำเหลือง หนอง ลิ่มเลือด สะสมในหัวเข่าได้ถูกดึงออกมาอย่างต่อเนื่องติดอยู่กับแผ่นกอเอี๊ยะ ในขณะเดียวกัน ความเจ็บปวดของหัวเข่าก็ค่อยๆ ทุเลาลง สุขภาพของผมดีขึ้นทุกวัน ผมไม่ได้รับความทุกข์ทรมานจากโรคแผลในกระเพาะอาหารอีก อาการหวัดและโรคเบาหวานก็หายไปและดวงตาของผมก็สดใสขึ้นทุกวัน
การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของสุขภาพทำให้ผมดำรงชีวิตด้วยความประมาท ช่วงนั้นเป็นยุคทองของการพัฒนาเศรษฐกิจที่มั่นคงที่สุดในประเทศไทยในช่วงระหว่างปี 1970 ถึง 1990 ผมเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปส่งออกไปยังตลาดยุโรปตะวันตก และประเทศแคนาดา พร้อมทั้งจำหน่างภายในประเทศ ในขณะที่ธุรกิจกำลังเฟื่องฟู ผมทำงานล่วงเวลาเป็นประจำและผมมักจะทานอาหารมื้อใหญ่ในร้านอาหารนอกบ้าน ทานอาหารรสจัดและไขมันสูง และมักจะดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กาแฟและชาเป็นประจำในปริมาณมากๆ เมื่อผมอายุ 41 ปีผมรู้สึกว่าร่างกายของผมผิดปกติ ทรวงอกของผมมักจะแน่นเจ็บปวดและบริเวณรอบท้อง เกือบจะอยู่ในสภาพท้องอืดตลอดทั้งวัน ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ไม่สามารถรับประทานอาหารได้แบบสบายๆ หากเผลอกินไม่ระวังก็จะทำให้เกิดอาการท้องอึดแน่น และทำให้หลอดคอแห้ง ในเวลากลางคืนจะนอนหลับได้เพียงหนึ่งหรือสองชั่วโมง แล้วรู้สึกคอแห้งจนไม่สามารถนอนได้อีกต่อไปจนถึงรุ่งเช้า เนื่องจากนอนหลับไม่เพียงพอ ในระหว่างวันจึงไม่มีพลัง ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากพูดคุยกับใคร ปรากฏการณ์ที่เลวร้ายอย่างนี้เกิดขึ้นกับร่างกายของผมมาเกือบสิบปี ในช่วงสิบปีนั้น ผมเที่ยวหาบำบัดโดยแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบันและทานยาต่างๆเกือบทุกวัน แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น
ในขณะที่ผมรู้สึกท้อแท้กับสุขภาพร่างกายและอนาคตของชีวิตของตัวเอง ผมได้อ่านพบหนังสือแพทย์ทางเลือกของจีนโดยบังเอิญซึ่งมันเปรียบเสมือนกับแสงสว่างแห่งความหวังในชีวิตผม หนังสือเล่มนั้นก็คือวิธีการนวดฝ่าเท้าแบบจีนโบราณ ในหนังสือกล่าวว่า ฝ่าเท้าเป็นเงาสะท้อนสุขภาพ 2 ข้างฝ่าเท้ามีเขตสะท้อนกระจายอยู่มากมาย แต่ละเขตสะท้อนมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งภายในร่างกาย เมื่ออวัยวะบางอย่างในร่างกายของเราทำงานผิดปกติหรือเกิดโรค ก็จะส่งผลกระทบต่อเขตสะท้อนที่ฝ่าเท้า ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดหรือผิดปกติ ในทำนองเดียวกันถ้าเขตสะท้อนของฝ่าเท้าผิดปกติ ความรู้สึกเจ็บปวดก็จะถูกสะท้อนออกมาในอวัยวะที่เกี่ยวสัมพันธ์ เกิดอาการผิดปกติหรือกระทั่งเจ็บป่วยไม่สบาย แต่ละข้างฝ่าเท้ายังมีเชลล์ปลายประสาทรับความรู้สึกกระจายอยู่ 7200 ตัว (ภาพประกอบแสดง) การนวดเท้านอกเหนือเป็นการปรับการไหลเวียนโลหิตของเขตสะท้อนและฟังก์ชั่นการทำงานของมันยังเทียบเท่ากับการปรับฟังก์ชั่นการทำงานของอวัยวะที่เกี่ยวข้อง
คนโบราณดำเนินชีวิตด้วย 2 เท้าเปล่าเกือบตลอดทั้งวันในการเดินบนพื้นดินขรุขระเหยียบ หินกิ่งไม้และใบไม้ การเคลื่อนไหวนี้ช่วยกระตุ้นไปยังบริเวณเขตสะท้อนที่ด้านล่างของเท้า และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกายและปรับปรุงการทำงานของอวัยวะต่างๆ ดังนั้นคนโบราณจึงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง
เมื่อผมอายุ 50 ปีผมตัดสินใจไปวิ่งเท้าเปล่าในสวนลุมพินีของประเทศไทย ผมวิ่ง 7.5 กิโลเมตรบนพื้นดินร้อนๆช่วงเวลา 4-5 โมงเย็นโดยใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง หลังจากที่ได้วิ่งติดต่อกันเพียงไม่กี่วันก็มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น หลังการวิ่งผมจะขับเสมหะสีดำออกมาได้มาก ทำให้ลำคอของผมชุ่มชื่นไม่แห้งผากอีกต่อไป และในเวลากลางคืนผมจะถ่ายอุจจาระสีดำได้ออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ปัญหาท้องแน่นค่อยๆหายไป ผมยังคงวิ่งเท้าเปล่าในสวนลุมเป็นประจำในทุกบ่าย และยังสามารถขับเสมหะและอุจาระอย่างต่อเนื่องได้ทุกวัน รอบทรวงอกของผมรู้สึกโล่งและไม่เจ็บปวดอีก บริเวณรอบท้องไม่จุกแน่น ลำคอชุ่มช่ำดีขึ้น ผมสามารถนอนหลับได้ดีในเวลากลางคืนการทำงานของระบบย่อยอาหารดีขึ้น มีความอยากอาหารเพิ่มขึ้น ร่างกายแข็งแรงและทำงานปกติ นี่เป็นเหตุการณ์ที่น่ามหัศจรรย์มาก ผมได้สะสมโรคต่าง ๆ ในร่างกายมาเป็นเวลานับสิบปี ผมได้เสาะหาแพทย์แผนจีนและแพทย์แผนปัจจุบันมามากมายเพื่อรับการรักษาแต่ก็ไม่หาย แต่ตอนนี้ฉันแค่ออกกำลังกายด้วยการวิ่งเท้าเปล่าทุกวัน เพียงเท่านี้ผมก็สามารถแก้ไขได้เกือบทุกโรค หลังจากนั้นผมก็ได้วิ่งเท้าเปล่าในสวนสาธารณะต่อไปเป็นประจำอีกเป็นเวลา 10 ปี แล้วจึงเปลี่ยนเป็นเดินเท้าเปล่าเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงหรือ รำไท้เก๊กด้วยเท้าเปล่าหนึ่งชั่วโมงหรือว่ายน้ำเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา 27 ปีผมเป็นหวัดน้อยมาก และในบางครั้งเมื่อเป็นหวัด ผมก็จะนวดฝ่าเท้าด้วยตัวเองและเพิ่มการออกกำลังกายอาการที่มีอยู่จะถูกขจัดทุเลาหายโดยเร็ว ทำให้ผมไม่ต้องรับประทานยาใดๆเกี่ยวกับอาการหวัด ปวดหัว เจ็บคอ ในช่วง27 ปีที่ผ่านมา ความดันโลหิตเป็นปกติ ไม่มีโรคเบาหวาน การทำงานของหัวใจและปอดปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาของผมสดใสและสว่าง ผมไม่เคยมีสายตาสั้นหรือสายตายาว ไม่มีอาการของต้อหิน ต้อกระจก
ในปี 2001 ผมได้เดินทางไปที่เมืองจูไห่มณฑลกวางตุ้งเพื่อกราบไหว้อาจารย์ จงเชิงเวย เพื่อศึกษาเรียนรู้การนวดเท้าแบบจีนชึ่งเป็นเคล็ดลับวิชาที่ถ่ายทอดกันในเฉพาะตระกุลครอบครัวของท่าน การนวดเท้าแบบจีนของอาจารย์จงมีเอกลัษณ์ข้อดีที่ไม่เหมือนใคร มีวิธีการนวดที่เป็นแบบแผนขั้นตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้วิธีการนวดแบบองค์รวม ร่วมกับการปรับหลักของการรักษาโรคที่สามารถบรรลุผลได้เร็วขึ้นและดีขึ้น ในปีเดียวกันผมบินไปปักกิ่ง เพื่อแสดงความเคารพต่อศาสตราจารย์ อูชุนซี ในฐานะครูเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการรักษาสุขภาพด้วยวิธีถ้วยดูด ( Cupping)“ถ้วยดูด 18 ถ้วยของอาจารย์วู ”การบำบัดรักษาด้วยวิธี Cupping ของอาจารย์วูนี้มีข้อดีที่เป็นเอกลักษณ์การบำบัดด้วยการวางถ้วยดูดแบบครบวงจรกล่าวคือวางถ้วยดูดที่จุดสะท้อนหลักของแขนขามนุษย์ ช่วงท้อง และแผ่นหลังร่างกาย นี่เป็นการรักษาโรคที่ผสมผสานระหว่างการรักษาแบบองค์รวมและการรักษาเฉพาะจุดเข้าด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งานระดับมืออาชีพด้วยวิธีการเจาะเลือด โดยที่บริเวณจุดสะท้อนบนผิวหนังที่เกี่ยวสัมพันธ์อวัยวะภายในร้างกายหลังวางถ้วยดูดจะเกิดรอยคล้ำขึ้นซึ่งสะท้อนถึงอาการของโรค จากนั้นก็จะใช้เข็มเเจาะบริเวณรอยคล้ำเพื่อเอาเลือดคั่งและสารพิษออกมา ผนังหลอดเลือดจะขยายกว้างขึ้น เลือดลมหมุนเวียนได้สะดวก และอาการเจ็บป่วยต่างๆ จะสามารถถูกกำจัดได้อย่างรวดเร็ว ต่อมาผมได้ผสมผสานการรักษาแบบแพทยืทางเลือกทั้งสองแบบนี้เข้าด้วยกันแล้วร่วมกับการนวดกดจุด ลมปราณเพื่อใช้ในการรักษาอาการเจ็บป่วยให้กับตัวเองและสมาชิกในครอบครัว และผู้ป่วยบางคนที่ทุกข์ทรมานจากโรคหัวใจและอาการโรคต่างๆของหลอดเลือด โดยมีปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดก็คืออาการเจ็บป่วยทั้งหมดที่มีในร่างกายตัวเองและในผู้ป่วยท่านอื่นถูกขจัดออกไปอย่างน่าอัศจรรย์ใจ
เมื่อผมมีความรู้เกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยเทคนิค "แพทย์สามประสาน" เพื่อพัฒนาความรู้ทางด้านการแพทย์ของผม ผมจึงเริ่มศึกษาหนังสือที่เกี่ยวกับทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีนและการวินิจฉัยโรคตามแนวการแพทย์แผนจีน มีทฤษฎีที่เป็นเอกลัษณ์เฉพาะกันมากมายในหนังสือสองเล่มของหลักการแพทย์แผนจีน เช่น แนวคิดของระบบทฤษฎีแพทย์แผนจีน ทฤษฎีหยินและหยาง ทฤษฎีองค์ประกอบห้าประการ, พยาธิวิทยา, สาเหตุของการเกิดโรค การวินิจฉัยการแพทย์แผนจีน หนังสือ 2 เล่มดังกล่าวนี้อุดมไปด้วยเนื้อหาและความหมายที่ลึกซึ้ง, มันคุ้มค่ากับการศึกษาอย่างจริงจัง ผมจึงได้ศึกษาและค้นคว้าซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นเวลาหลายปี ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่สามารถเข้าใจเนื้อหาและความหมายของมันได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยผมปรับปรุงวิธิการวินิจฉัยและรักษาโรคดีขึ้นและช่วยให้ผมตอบคำถามที่มีอยู่ในใจเป็นเวลาหลายปีนั่นคือ ทำไมในสังคมสมัยใหม่มีจำนวนพลเมืองโลกที่เป็นทุกข์ทรมานจากโรคของระบบหลอดเลือดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและ จนถึงปัจจุบันโรคอาการโรคหลอดเลือดเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกขจัดแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพโดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์และแพทย์ของทุกประเทศ
ในสังคมสมัยใหม่ปัจจุบัน มีปัจจัยลบที่ไม่พึงประสงค์ทั้งภายในและภายนอกที่ส่งผลกระทบบั่นทอนต่อสุขภาพของร่างกายมนุษย์อาทิเช่น:
ประการแรก การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงของสภาพดินฟ้าอากาศ บางครั้งก็รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนและส่งผลให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ขึ้นได้โดยง่าย
ประการที่สอง มลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ในชั้นอากาศมีคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าชพิษ ฝุ่น pm 2.5 เพิ่มมากขึ้นเป็นอันตรายต่อหลอดลมและปอดของร่างกายมนุษย์
ประการที่สาม การแข่งขันที่ดุเดือดในชีวิตและการทำงาน ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกไม่สบายทางอารมณ์สภาพจิตใจที่กังวลเคร่งเครียดส่งผลต่อความผิดปกติของการไหลเวียนโลหิตภายในและการทำงานของอวัยวะภายใน
ประการที่สี่ การเคลื่อนไหวร่างกายของมนุษย์ลดลงอย่างมากสังคมปัจจุบันผู้คนส่วนมากเดินทางสัญจรไปมา เกือบไม่ต้องใช้ 2 เท้าเดินทางเพราะในสังคมมีพาหนะในการเดินทางที่หลากหลาย เช่น รถยนต์ รถไฟ เครื่องบินเรือ ฯลฯ อุปกรณ์เครื่องจักรผ่อนแรงผลิตออกมามากมาย แทนการใช้แรงงานของคน ทำให้มือ 2 ข้างของคนไม่ต้องทำงานหนักต่อไป คนส่วนใหญ่ในสังคมจะสวมรองเท้าเกือบทุกวันไม่ว่าพวกเขาจะเดินหรือออกกำลังกาย หรือแม้อยู่ในบ้านของตัวเองก็ยังสวมรองเท้า วิธีดำเนินชีวิตที่สวนทางขัดกับธรรมชาติเช่นนี้ส่งผลเสีย ทำให้สุขภาพของเราถูกบั่นทอนและเสียหายโดยไม่รู้ตัวเพราะกิจกรรมของร่างกายมนุษย์ลดลงอย่างมาก เขตสะท้อนที่กระจาย 2 ข้างฝ่าเท้า จุดลมปราณ เส้นลมปราณ และเส้นประสาทเชลล์ประสาทที่ กระจายไปทั่วร่างกายประสิทธิภาพงานจะตกต่ำ เสมือนถูกบล็อกไว้ ส่งผลต่อกระทบต่อการไหลเวียนโลหิตที่ช้าลงและผิดปกติและมีผลต่อการทำงานของอวัยวะภายในด้วย (ทุกคนรู้ว่ากลไกระบบต่างๆเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานของระบบย่อยขับถ่ายในร่างกาย ระบบกลั่นกรองระบบดุลยภาพที่ด้อยประสิทธิภาพลง ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดของเสียและสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้ขยะเหล่านี้ยังสะสมอยู่ในร่างกายเราและเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน ไม่ต้องพูดถึงว่าเรายังหายใจเอาก๊าซคาร์บอนไดร์ออกไซร์ก๊าซพิษเข้าไปในร่างกายจำนวนมากทุกวันและบริโภคอาหารหลากหลายที่ปนเปื้อนสารเคมี ซึ่งสารวัตถุที่แปลกปลอมเหล่านี้ปกติไม่สอดคล้องกับร่างกายมนุษย์ เพราะธรรมชาติไม่ได้สร้างให้มนุษย์มีอวัยวะพิเศษที่จะละลายและย่อยสลายก๊าชพิษสารเคมีเหล่านี้เมื่อสารเหล่านี้ถูกนำเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ และมิได้ถูกขับออกจากร่างกายเราอย่างมีประสิทธิภาพ มันจะถูกผสมกับสารตะกอนของเสียในร่างกายและสะสมเพิ่มพูนขึ้นทุกวันในอวัยวะภายในและตามผนังหลอดเลือดทั่วร่างกาย จนทำให้เกิดการอุดตันของเลือด และพัฒนาจนกลายเป็น น้ำเหลืองเสีย ลิ้มเลือด เนื้องอกหรือเนื้อร้าย ผนังหลอดเลือดจะแคบลงเรื่อย ๆ ทำให้เลือดลมไหลเวียนติดขัด เส้นลมปราณถูกปิดกั้น เกิดเป็นความเจ็บปวดและโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ (จากรูปแสดงให้เห็นระบบหมุนเวียนโลหิตภายในร่างกาย)แสดงถึง
หากการไหลเวียนของเลือดในร่างกายมนุษย์ไหลช้าลงอย่างผิดปกติ จะทำให้เกิดการอุดตันของเลือดในอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง และจะส่งผลทำให้อวัยวะส่วนอื่นๆ ถูกปิดกั้นด้วย นี่คือสาเหตุที่มนุษย์ในสังคมสมัยใหม่ส่วนใหญ่มีร่างกายที่อ่อนแอ และมีภูมิต้านทานโรคต่ำ ทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บนานาชนิดได้โดยง่าย และหลายๆคน ร่างกายยังสลับซับซ้อนมีอาการโรคแทรกซ้อนหลายอย่างสะสมอยู่ อยู่ในสภาพแวดล้อมทางสังคมในปัจจุบันเช่นนี้ มีผู้คนมากมายที่ยังไม่ตื่นตัวใช้ชีวิตตามแบบเดิมๆที่เคยทำ ทั้งดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ดื่มกาแฟทุกวัน และทานอาหารมื้อใหญ่ กินอาหารรสจัดและมัน ใช้ชีวิตอย่างไม่มีระเบียบวินัย การทำงานและการพักผ่อนไม่สมดุลย์กัน และไม่ให้ความสนใจกับการออกกำลังกาย คนประเภทนี้จะมีภูมิต้านทานโรคต่ำและจะเจ็บป่วยเป็นโรคต่างๆได้โดยง่าย
ส่วนคนประเภทที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพตัวเองและ มีการออกกำลังกายเป็นประจำ เมื่อมีอาการเจ็บป่วย และได้รับการรักษาทางการแพทย์ด้วยวิธีต่างๆ เช่นใช้ยา, การฝังเข็ม, การนวด, การวางถ้วยดูด (Cupping) เป็นต้น คนประเภทนี้จะฟื้นฟูร่างกายได้เร็ว อย่างไรก็ตาม ยังมีคนเป็นจำนวนมากที่มีร่างกายอ่อนแอ และมีภูมิต้านทานโรคต่ำ เมื่อพวกเขามีอาการเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงและเข้าพบแพทย์เพื่อรับบำรักษาโรค แพทย์จำนวนไม่น้อยในปัจจุบัน จะทำการวินิจฉัยและรักษาโรคไปตามอาการเท่านั้น โดยไม่มีการวินิจฉัยโรคแบบองค์รวมหาถึงต้นเหตุของอาการโรค และมิได้ใช้วิธีการรักษาโรคแบบองค์รวมร่วมไปกับการรักษาตามอาการป่วย แม้ว่าอาการป่วยจะดีขึ้นหรือทุเลาลงชั่วคราว แต่เนื่องจากการไหลเวียนโลหิตในร่างกายของผู้ป่วยก็ยังคงอยู่ในสภาพที่ผิดปกติเสียศูนย์ ไม่ช้าไม่นานอาการโรคที่พึ่งทุเลาหายดีก็อาจจะกับมาเกิดอาการป่วยอีก โดยเฉพาะจากยาที่แพทย์จัดให้หรือผู้ป่วยได้รับการบำบัดจากวิธีผ่าตัด ก่อเกิดผลข้างเคียงบั่นทอนต่ออวัยวะหลักในร่างกาย เช่น กระเพราะอาหาร ลำใส้ ตับ ไต ก็จะยิ่งทำให้สุขภาพร่างกายผู้ป่วยยิ่งอ่อนแอ ก่อเกิดวงจรวิบากของการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ภูมิคุ้มกันก็จะยิ่งตกต่ำและง่ายก่อเกิดอาการโรคแทรกซ้อน ใหม่ตามมาอีก นี่คือหนึ่งในเหตุผลว่าทำไมในปัจจุบัน อาการโรคต่างๆของระบบหลอดเลือดจึงยังไม่สามารถถูกวงการแพทย์ขจัดแก้ไขทุเลาหายดีอย่างมีประสิทธิภาพ
แล้วอย่างนี้เราจะควบคุมและรักษาโรคเหล่านี้ของหลอดเลือดให้หายขาดได้อย่างไร มุมมองของผมคือเราสามารถทำได้ เราจะสามารถเอาชนะโรคของระบบหลอดเลือดต่างๆได้ ด้วยวิธีการแพทย์แผนจีนผสมผสานกับแพทย์ทางเลือกของจีน โดยมีเหตุผลดังต่อไปนี้
ประการแรก การแพทย์แผนจีนเชื่อว่าร่างกายมนุษย์เป็นวัตถุประกอบชิ้นหนึ่งของวัตถุหมื่นล้านชิ้น ในจักวาลธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติทางชีวภาพและความสัมพันธ์ทางสังคม ร่างกายของมนุษย์ประกอบด้วยอวัยวะหลายส่วน และอวัยวะแต่ละส่วนทำงานเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ดังนั้น ในการรักษาโรคแบบแพทย์แผนจีนจึงให้ความสนใจและเน้นเป็นพิเศษเกี่ยวกับการรักษาร่างกายแบบองค์รวม ควบคู่ไปกับการรักษาตามอาการ เพื่อที่จะรักษาอาการป่วยให้หายขาดได้
ประการที่สอง การแพทย์แผนจีนมีวิธีการวินิจฉัยโรคอันเป็นเอกลักษณ์ แพทย์แผนจีนยึดหลักทฤษฎีวัตถุนิยมวิภาษ ในการเช็คตรวจวินิจฉันโรคและบำบัดโรค โดย วินิจฉัยโรคจาก 4 วิธีการ คือ การฟัง การดู(รวมทั้งดูลิ้น) การถาม และคลำ(รวมทั้งแมะชีพจร) มีความละเอียดลึกซึ้งและครอบคลุมทั่วถึง มีการตรวจสอบและวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยอย่างละเอียดถี่ถ้วน ถ้าเราผสมผสานกับทฤษฎีโครงสร้างร่างกายมนุษย์ตามแนวการแพทย์ตะวันตกเพื่อวินิจฉัยโรค เราจะสามารถค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของโรคและได้อย่างทั่วถึงและแม่นยำยิ่งขึ้น
แพทย์แผนจีนถือว่าลมปราณ เลือด สารจำเป็น น้ำหล่อเลี้ยง เป็นวัตถุส่วนประกอบพื้นฐานของร่างกายมนุษย์ ที่ช่วยขับเคลื่อนในการดำเนินชีวิต แต่ถ้าหากเรานำทฤษฎีวัตถุนิยมวิภาษ มาวิเคราะห์ เกี่ยวกับของเสียสารพิษต่างๆ ดังเช่น เสมหะ ความชึ่นก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ ลิ่มเลือด หรือกระทั้งเนื้องอก เนื้อร้าย ที่เกาะติดสะสม อยู่ตามผนังหลอดเลือดของอวัยวะต่างๆจนก่อเกิดเป็นอาการโรค น่าจะเป็นวัตถุแปลกปลอมที่แฝงอยู่ในร่างกายเรา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วัตถุแปลกปลอมเหล่านี้ ก็จะเหมือนวัตถุทั่วไปในจักรวาลธรรมชาติ คือจะมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง ผันแปรอยู่ตลอดเวลา และถ้าหากเราศึกษาเรียนรู้ถึงสาเหตุ ต้นต่อของการเกิดของวัตถุแปลกปลอมเหล่านี้จนก่อเกิดอาการโรครวมทั้งหลักเกณฑ์ของการเคลื่อนไหวผันแปรของวัตถุและอาการโรคดังกล่าว แล้วนำวิธีบำบัดที่มีประสิทธิภาพมาทำการบำบัดขจัดแก้ไข อาการโรคที่มีอยู่รุนแรงใหญ่ ก็จะทยอยถูกปรับเป็นเล็กเบาและทยอยทุเลาหายดี
3.แพทย์จีนเน้นหลักการรักษาโรคแบบองค์รวมควบคู่กับรักษาโรคตามอาการที่เป็นอยู่ ถ้าหากเรานำแพทย์ทางเลือก โดยการนวดฝ่าเท้าแบบจีนมาประสานใช้กับการวางครอบถ้วยดูด 18 ถ้วย และประสานกับการนวดกดจุดลมปราณบำบัดโรค แล้วนำมาประสานใช้กับทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีน พร้อมวิธีบำบัดแบบแผนจีนบางวิธี เราก็จะสามารถบำบัดได้แบบองค์รวมแบบทั่วหน้า โดยไล่ขจัดอาการโรคเลือดลมที่ติดขัดที่เกิดขึ้น ตามเขตสะท้อนต่างๆ 2 ข้างฝ่าเท้าและ ตามเส้นลมปราณตามจุดลมปราณ รวมทั้งเส้นประสาทและจุดประสาทที่กระจายอยู่ทั่วร่างกาย เพื่อขับเคลื่อนกลไกลต่างๆเหล่านี้ ตื่นตัวปฎิบัติหน้าที่งานอย่างมีประสิทธิภาพ และขับเคลื่อนผลักดันให้เลือดที่ไหลเวียนอยู่ไหลเวียนอย่างมีพลังมีประสิทธิภาพ รวมทั้งปรับอวัยวะต่างๆในร่างกายให้ปฎิบัติหน้าที่งานที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะกลไกลของระบบย่อยขับถ่าย ระบบกลั่นกรองและระบบดุลยภาพที่มีประสิทธิภาพ ร่างกายมนุษย์ก็จะสามารถขจัดของเสีย สารพิษต่างๆ ออกจากร่างกายที่มีประสิทธิภาพ
แต่ถ้าหากเป็นผู้ป่วยบางคนที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ ร่างกายมีอาการโรคแทรกซ้อนหลายอาการเกาะกินสะสมอยู่ และยังสะท้อนออกมีของเสียสารพิษหรือกระทั่งลิ่มเลือดเกาะติดสะสมอยู่ตามผนังหลอดเลือดของอวัยวะส่วนหนึ่งหรือหลายๆส่วน รวมทั้งสะท้อนออกอาการตามจุดลมปราณที่เกี่ยวสัมพันธ์บนผิวหนัง เราก็จะนำเข็มเจาะ(เข็มใช้เฉพาะบุคคลและครั้งเดียว) มาเจาะแทงตามจุดลมปราณบนผิวหนังดังกล่าว(วีธีใช้เข็มเจาะแทงจุดลมปราณบนผิวหนังดังกล่าว ไม่ก่อเกิดมีอาการเจ็บปวด ความรู้สึกเสมือนแพทย์แผนปัจจุบันทำการฉีกยาชา) แล้วนำถ้วยดูดมาทำการดึงดูดของเสียสารพิษ ลิ้มเลือด ออกจากผนังของหลอดเลือดอวัยวะแล้วผ่านจุดลมปราณที่เกี่ยวสัมพันธ์บนผิวหนังแล้วขับออกจากร่างกาย ของงเสีย สารพิษต่างๆ ทยอยถูกขับออกจากผนังหลอดเลือดของอวัยวะ ผนังหลอดเลือดขยายกว้างขึ้น เลือดกลับมาไหลเวียนหล่อเลี้ยงเข้าสู่ปกติ เม็ดเลือดขาวก็จะเพิ่มประสิทธิภาพงานเคลื่อนตัวเข้ามากำจัดเชื้อโรค สิ่งแปลกปลอมรวมทั้งวัตถุแปลกปลอมต่างๆในร่างกาย เชลล์ประสาทของอวัยวะก็ก่อเกิดเสริมสร้างเร็วขึ้นจะสามารถไปบูรณะซ่อมแซมเสริมสร้างโครงสร้างส่วนประกอบของอวัยวะที่เสื่อมโทรมเสียหาย เช่น หมอนรองกระดูก เส้นเอ็น ฯลฯ ของข้อต่อต่างๆ อาการเจ็บป่วยไม่สบายที่มีอยู่ก็จะทุเลาหายโดยเร็ว
วิธีบำบัดดังกล่าวนี้นอกจากมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูง ยังเป็นวิธีบำบัดที่ปลอดภัยไม่ก่อเกิดผลข้างเคียงอันตรายต่อผิวหนัง ต่อสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยสาเหตุเพราะ
1. เป็นวิธีบำบัดขจัดสารพิษ ลิ้มเลือด หรือกระทั้งก้อนเนื้อ ออกจากผนังหลอดเลือดของอวัยวะโดยผ่านออกทางจุดลมปราณที่เชื่อมสัมพันธ์กับอวัยวะดังกล่าบนผิวหนัง ออกจากร่างกายโดยไม่ไปทำลายบั่นทอนถูกอวัยวะดังกล่าว รวมทั้งผิวหนังเนื้อเยื่อในร่างกาย ทำให้สามารถรักษาความสมดุลของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. รัศมีของภายในถ้วยแก้วที่วางครอบดูดอยู่ เป็นสูญญากาศฉนั้นเชื้อโรค สารพิษต่างๆ ภายนอกจะไม่สามารถชึมเข้าไปในถ้วยดูด ผ่านผิวหนังเข้าไปในร่างกาย มีความปลอดภัยสูง แม้กระทั้งผู้ป่วยที่มีอาการเบาหวาน ก็ไม่ก่อเกิดผลข้างเคียงต่าผิวหนังและร่างกาย
นี้เป็นวีบำบัดอย่าหน่าทึ่ง และมหัศจรรย์มากที่คนจียแพทย์แผนจีน 4-5 พันปีก่อน ก็ศึกษาเรียนรู้ถึง ร่างกายมนุษย์มีระบบลมปราณอยู่ ชึ่งเส้นลมปราณและจุดลมปราณต่างๆเกี่ยวสัมพันธ์กับเลือดไหลเวียนในหลอดเลือด และเกี่ยวสัมพันธ์กับอวัยวะต่างๆในร่างกายรวมทั้งยังเรียนรู้ถึง นำวิธีวางครอบถ้วยดูดมาดึงดูดขจัดของเสียสารพิษ หรือกระทั้งลิ่มเลือด ก้อนเนื้อร้าย ออกจากร่างกายอย่างปลอดภัย เป็นความรู้วิธีบำบัด วัฒนธรรมดั่งเดิมของตะวันออกชึ่งเรา ควรศึกษาไว้และสืบทอดสานต่อๆ เนื่อง
ช่วงระหว่างที่รับการบำบัดอยู่ เรายังต้องสอนชี้แนะให้ผู้ป่วยประสานบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเสริมสร้างเลือดและไต เพื่อจะให้ผู้ป่วยเสริมสร้างสุขภาพและฟื้นฟูแข็งแรงดีขึ้น วิธีโภชนาบำบัดนี้ คนจีนและแพทย์มีความเชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้วผมจึงไม่กล่าวเพิ่มเติมใดๆ
วิธีบำบัดแบบผสมผสานโดนแพทย์แผนจีน แพทย์ทางเลือก และแพทย์ปัจจุบันนี้มีประสิทธิภาพและประสิทธ์ผล ต่อการบำบัดโรคของอาการโรคต่างๆ เช่นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ โรคเบาหวาน ปวดหัว นอนหลับไม่ดี ระบบย่อยขับถ่ายผิดปกติ ท้องผูก โรคข้อต่อต่างๆ เจ็บปวดอักเสบ หรืออาการโรคเรื่อรังต่างๆ ประสิทธิภาพเปอร์เซ็นสูงถึง 80-90% ในเวลาเดียวเรายังต้องชี้แนะและเน้นให้ผู้ป่วยต้องสนใจ ดูแลเสริมสร้างสุขภาพด้วยตนเอง ดำเนินชีวิตมีระเบียบวินัย บริโภคอาหารให้ถูกหลักอนามัย และออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันสุขภาพร่างกายจะฟื้นฟูแข็งแรง อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นประสบการณ์ของผมในหลายๆปีที่ผ่านมา ได้นำแพทย์ผสมผสานนี้มาบำบัดโรคต่างๆ ของหลอดเลือด ให้กับผู้ป่วยหลายๆท่าน จนอาการโรคของผุ้ป่วยทุเลาหายดีฟื้นฟูสุขภาพแข็งแรงจึงนำมาเล่าสู่กันฟัง
สามารถศึกษาเรียนรู้แพทย์ผสมผสานนี้เพิ่มเติ่มได้ที่ Facebook และ Youtube ของ อ.สุทัศน์ กุลสันติพงศ์ และ เว็บไซต์ www.zhenguhealthland.com
尊敬的各位领导,师博,老师,女士们,先生们
首先讓我感謝中國國際文學研究會,國學文化傳承委員會的各位首長、各位理事委員對我的支持,讓我有機會參加此次貴會舉辦的“中華優秀傳統文化尋根之旅”的研對會,並使我很榮幸能站在此講臺上,講出我的人生在幾十年的時間裏,對中國傳統文化的認識,理解及深刻的感想。
我是位泰國華裔,在少年十四歲時與同班的幾位同學乘船來中國讀中學,那是在1957年的5月份。我曾在廣州讀一年,然後轉到桂林繼續學習,一直讀到高中二年級第一學期,由於我父親患病重,急需我即刻返回泰國幫經營生意,我便在當年申請返回泰國。雖然我在中國只讀幾年的中學,但由於我在讀小學時,就養成喜愛看書學習的愛好,故無論在何處,我身邊總帶有一本書,一有時間有空,就翻開來看來學習,甚至有時星期天,我幾乎整天都呆在圖書館埋頭在看書學習。從書裏,從中國的文化中,我好似尋找到一大庫的文化智識寶藏。它是中國幾千年裏,歷代的先輩,先賢們所承授下來的輝煌燦爛的文化知識,有許多寶貴的文化知識智慧,很值得我們去學習去傳承它,故從年青一直到現在,我還是一直不停學習,研究中國的文化知識。
天有不測之風雲,人有旦夕的禍福。
天無絕人之路
不怕登山難,只怕有心人
山重水複疑無路,柳暗花明又一村
失敗是成功之母
這是過去幾千年裏,中國的老前輩先賢,總結出來有關人生旅程中所必遭遇的禍福,同時它就如一盞照明燈,一個指南針,照耀指導鼓舞著後代的中華兒女,不屈不撓奮勇向前走。在我的人生旅程中,在工作事業方向及身體健康,我都曾遭受到重重的挫折打擊。在經營生意事業,曾遭遇到由於客觀外在因素國際與泰國國內產生的政局與金融風暴的沉重打擊危機,嚴重到幾乎走到破產的邊緣,由於時間有限在這方面我就不多談,但每次我處在危機艱苦的時期,我總連想到中國的許多先賢偉人,當他們的人生處在最艱難幾近絕望時,他們敢於面對事實吸取經驗教訓失敗的原因,繼續的奮勇向前走的精神,來提高自己的信心,振奮精神,想盡千方百計去衝破重重的困難,使到能安然渡過一個又一個的危機。在我的身體健康方面,從年青一直到50多歲,我曾遭受各種疾病不停的糾纏與無情的傷害。我在24歲那年遭遇到一次嚴重的車禍,雙腳膝蓋部嚴重受傷,後接受西醫師連續14年的治療,病情沒有獲得好轉,反而更加嚴重,最後醫生診斷斷定我的雙腳膝蓋部整個組織結構已腐爛损壞,必須儘快接受動手術開刀治療,否則兩條腿會逐步萎縮如鳥腳,甚至必截肢,裝上一雙假腿。在治療雙腳膝蓋 14年裏,我的體質健康每況愈下,我曾患上連續三年的胃潰瘍病症,患上糖尿病,經常性的傷風感冒,38歲那年我的雙眼視就老化模糊遠視。幸虧在38歲那年我沒有按照醫生的關照去接受動手術開刀治療,而只用一種香港出產的古樓山膏藥,敷貼雙膝蓋傷痛處,配合進行赤腳的跳動運動鍛煉,就通過這樣的調整治療,在六個月裏連續拔出積聚在雙腳膝蓋部大量有毒素的沉澱物質,赤黃水,濃瘀血,以致雙腳膝蓋部的酸痛發炎消失。在自我治療雙膝蓋的6個月裏,我的身健康反而逐日好轉,6個月裏不曾患上傷風感冒,胃潰瘍病症痊癒,糖尿病也消失,一雙眼視反而逐日明亮起來。
身體健康迅速恢復,反而使我產生麻痹大意,疏忽的生活作風,20世紀70-90年代是泰國政局最穩定經濟發展的黃金時期,我是經營服裝成品內銷與出口到加拿大西歐各國,生意欣欣向榮發展,便拼命工作經常性超時超量的工作,也經常在外的餐廳酒樓吃大餐吃辛辣肥膩的飯菜,經常性的喝超量的酒精,抽煙,喝咖啡,濃茶。 41歲那年開始,便感覺身體產生異樣失常,心胸部經常脹悶,甚至產生痛楚的感覺,腹部幾乎整天處在脹悶的狀態,消化系統嚴重失常,幾乎什麼飲食料品的東西都不能隨便碰吃到,一不小心,就會引發肚子脹悶,還影響到夜晚喉嚨氣管產生乾燥的現象,晚上只睡一兩個小時,喉嚨的乾燥影響到無法再睡下去,只能坐在床上一直到天亮。晚上睡眠不足白天無精打采,渾身無力氣,只想睡覺,什麼都不能做,也不想接待任何人談話。這種極端惡劣的現象,一直存在我身上近十年的時間。在那十年裏,我找遍了中西醫師的治療,幾乎每天在服食各種藥品,但病情沒有獲得實際的好轉。
正當我對自己的體質健康和對生命的前程,喪失信心悲觀失望時,在無意之時,我從中國傳統治療的書籍裏找到曙光找到希望,最先是腳部按摩治法的書,在書裏提到人的腳部是人體的縮影,人的雙腳部份有許許多多的反射區,每一反射區與體內的每一臟腑器官有密切關聯,師当我们体内的某一脏腑器官功能偏着甚至产生病症的现象,便会影响到腳都有关联的发射区,产生痛楚或异样的状态,同样如果脚步的反射区功能失常,产生痛楚的感觉也会反映到体内有关联的脏腑产生痛楚或病症的现象,每一支脚底步還分佈有7,200個神經細胞的末稍。(圖展示)按摩腳部的反射区,除了調整改善反射區的血液迴圈及其工作功能,也等於正在調整與其有關聯的臟腑器官的工作功能。
古代的人過著赤腳的生活,雙腳底幾乎整天在粗糙的泥土的地面,踩踏在石頭枯枝樹葉,刺激調動到腳底部各反射區的工作功能,增強體內血液迴圈的功能,也改善與其有關聯各臟腑器官的功能,故古代的人,都比較健康雄壯。
我50歲那年便決定到泰國是樂園公園進行赤腳的跑步,在下午4-5點炎熱的地面上,跑7.5公里,一個小時的時間,連續跑了幾天,一個意想不到的奇跡發生,在跑步的過程或跑後,在我的喉嚨氣管部排出大量黑色的痰疫,晚上排出大量黑色的糞便,使到我的腹部脹悶逐步消失,喉嚨滋潤好轉,晚上能睡得比較長比較深。我便繼續在每天下午到公園赤腳跑步,每天仍能排出大量的糞便及大量的痰疫,我的心部脹悶痛楚亦被解除,晚上能睡得深睡得熟,消化系統功能獲得改善,食欲力增強,身體有力氣,能正常工作。這是件非常神奇的事件,積聚在我身體的各疾病,10年裏我找遍了中西師治療都治不好,而現在我只通過每天進行有恆的赤腳跑步運動鍛煉,卻能解除幾乎所有的病症。往後我便繼續到公園赤腳跑步,跑了10年,後改為赤腳走路一小時或赤腳打太極拳一小時,或有時游泳一小時。在過去27年裏,平時我很少患傷風感冒症,有時患上感冒傷風,通過自我按摩脚步及增強運動病症便會隨之被解除,故在27年裏我沒服食過一粒有關傷風感冒的任何藥品,身體血壓正常,沒有糖尿病,心肺功能仍正常,尤其是我的雙眼視反而越來越明亮,不曾有過近視或遠視的現象。亦没有白内障石眼障的病症。
公元2001年我專程飛往廣東省珠海市參拜鐘聲威醫師為師傅,學習其家族傳授的中國式腳部按摩療法。鐘醫師這套中國腳部按摩療法,具有它獨特的優越點,按摩操作法是有規律有程式的進行按摩,尤其是應用整體的按摩法結合重點調整治療存在的主要病症,故對治療些病症便能取得較迅速良好的功效。在同一年裏我再飛往北京,參拜吳春喜教授為師,學習其獨創的“吳氏十八罐排罐療法,這種吳氏的排罐療法,具有它的獨特優點,它是以整體全面的排罐療法,即在人體四肢及腹部背的主要經穴處排布罐子,這是一種以整體的治療結合法療局部病症的療法,尤其是很專業的運用,刺經拔瘀血法”,可同時在幾個反映出有病灶現象的經穴處,進行刺絡拔出其中積聚的各邪物及瘀血,使到血管壁迅速擴大,血液流行通暢,病症也可較迅速被袪除。往後我便把此兩種傳統的治療法相結合起來,然後再結合經絡經穴的按摩指壓法,並運用來治療自己身體上還存有些病症及自己家庭成員與社會上一些患者,尤其是患上心血管的各病症。一個意想不到的奇跡即自己與所有患者身體上存在的各病症都被袪除,這其中包括些患上疑難雜症的患者。
掌握了“三元”結合的知識及具體治療作法,為了提高增強醫學的知識,我便著手學習研究中醫基礎理論與中醫診斷法的書籍。在中醫這兩本書籍裏有許多獨特的學說,原理如中醫理論體系的概念,陰陽學說,經絡五行学说,臟象,病因,病機,中醫的診斷病症,內容豐富,意義深長,很值得我們認真去學習研究它,雖然在過去多年的時間,我反復的學習研究,仍還不能全面透徹掌握到其中的內容與意義,但起碼也幫了我提高對疾病的診斷與治療病症的功效,尤其是幫我解答多年存在我腦海裏的疑問,即“為什麼,現代的社會,世界各國公民患上心血管的人數越來越增加,而直到目前這些心血管的病症,還不能被各國的醫學者,醫師的有效益給予袪除掉”。
現代社會存在著些內外不利的因素,時刻在撞擊損害到人體質的健康如:
第一、氣候極端無常的變化,甚至有時據烈撞擊到人身的健康,造成容易產生各種病症。
第二、環境的污染,空氣層的二氧化碳,有毒素的氣體越來越增加,很容易浸擊損害到人體的氣管與肺部。
第三、生活工作激烈競爭,使到人容易產生情志不安,精神緊張,擔憂的心裏狀態,影響到內血液迴圈失常,臟腑功能偏差。
第四、人的身體活動力大為降低,出門旅行已不再以雙腳走路為主,因為社會上有各種各樣的運輸工具,如汽車,火車,飛機,船等,為你服務輸送。電動化,自動化,電腦化的產品代替了體力的勞動,人的一雙手也幾乎整天不必辛勤操勞工作,社會上絕大部的人,幾乎每天必穿上一雙鞋子,無論是出門走路運動,甚至在自家的住宅,都離不開一雙鞋子,人類過著這種與自然背道而馳的生活方式,在不知不覺之中卻自我損害到自己身體健康,由於人體的活動力大為降低份布於雙腳部的各反射區,神經細胞未稍,及分佈於遍體的經絡系統,經穴與神經系統,神細胞的工作功能隨之被降低,好似已被約束著,影響造成血液的流行迴圈功能緩慢失常,也影響到體內臟腑器官的功能隨之降低(大家都知道以上這些締結組織與血液的迴圈,臟腑器官的功能有密切關聯),尤其是體內的消化系統功能,排泄功能與新陳代謝功能降低,人體自身就不能有效把體內的廢物,毒素物質除體外,造成這些廢物逐日積在體內,何況我們每天還呼吸引進大量有毒氣的氣體,以及引進有各種各樣滲有有化學物質的飲食料品,以上此兩種異形的物質,本來就與人體的組織結構不相適應,因為自然界造人類,父母所生於我們的身體,本來就沒有具備有特殊的器官來熔化與消化此兩類物質,而這些物質一旦被引進人體內,而又不能有效被排出體外,便會與體內原有的廢物沉澱物質混合結在一起,並逐日積聚在體內各臟腑器官的血管壁積久成液體的風湿邪物質,瘀血甚至成形為腫瘤,毒素的腫瘤,血管壁變成越來越狹窄,血液流行不通暢,經絡阻塞,痛楚與各種疾病便隨之產生,疾病(圖展示)從這張圖有關血液在體內的血管迴圈狀況。
如果人體內的血液迴圈失常緩慢,在某一臟腑器官某一處造成血液阻塞,也會造成其他的臟腑部位阻塞,這是為什麼現代社會大多數的體質,免疫力比較虛弱,身體複雜,容易產生各種各樣的病症。處在這種社會環境的狀況,不少人仍然過著我行我素的生活方式,照樣喝酒抽煙,天天喝咖啡,吃大餐,喜吃辛辣肥膩的東西,生活沒有規律,勞逸分配不宜,又不注重運動鍛煉,這一類型的人群,體質免疫力比他人更差,更容易患上各疾病。
社會上有部份人,由於平常比較注重保健養身,有經常性的運動鍛煉,一旦患此各病症,接受醫生的治療,服食藥品,針灸,推拿,拔罐等,病症會較快被袪除。但對於不少人的體質比較虛弱,免疫力低,身體又比較複雜,存在著各種併發症,一旦患病或患上較嚴重的病症,接受醫生的治療。現代的不少醫生,在診斷病症與治療病症,只作片面的診斷和注重局部治療主要的病症,而不作全面認真診斷病症與採取整體的治療法配合局部治療主要病症,雖然存在的病症會被治癒或暫時被控著,但由於患者體內的血液迴圈,仍處在失常不平衡的狀態,過了一段時間,剛被治癒或控制著的病症又可能會復發,尤其是如果醫生所配給的藥品或經濄手術治療開刀,所含有的副作用或引發副作用,损害到肠胃肝肾的功能,患者的體質便會更加衰弱,在体内形成一种恶性的血液循环状态,免疫力會更低,更容易產生新的併發症,這也是原因之一,為什麼現代社會存在的各種心血管病症,還不能被醫學,醫生有效益袪除。
那對於現代社會存在的各種心血管病症,我們是否能將其控制,甚至逐個給予袪除。
我的觀點認為我們是可以做到,是可以戰勝這些心血管的病症,而中醫本來就具備了不少有利的條件,可以去戰勝這些心血管的各病症,理由:
第一、中醫早就已確定人體是宇宙大自然界萬物中一個有生物屬性,社會屬性,又是一個有機整體的物質,人體是由若干臟腑器官所構成,這些髒胕器官有相互間的關聯,組成為一個有機整體的人體,故中醫在治療病症,特別重視和強調,必須以整體的治療配合局部的治療,達到除根治本的效益。
第二、中醫具備有一套獨特的診斷病症法,它以唯物辨症的觀點以四诊,全面細緻深入的去檢查,診斷患者患上的病症,如果我們配合西醫的人體結構組織理論來診斷病症,便可較全面較準确查出病症的根源及病灶的所在處。
中医认为人体内的气,血精津液是组成人体生命活动的基本物质。那我们用唯物辨证的观点来分析论证积聚在各脏腑器官血管壁的风湿邪物淤血,肿瘤,有毒素的肿瘤,實质上就是体内的异形物质。由于这些异形的物质阻礙了血液正常的流行,降低脏腑器官的工作功能造成整个机体失去阴阳平衡,降低了人自身的免渡力功能便导致产生各种各样的心血管病症。人的机体及体内存在着正常或异形的物质,甚至形成了个病症的现象,就如大自然里的物质一样。都有它产生。发展转换的规律,也就是说这些物质也一直在恒动着变换着转换者。当我们认识掌握到了体内这些异形物质以致导致产生病症的因素根源,而应用有效益的治疗法,來调营治疗它, 我们便能把这些物质,病症从大转为小, 甚至把它从体内祛除掉,这在理论思想上已确立了可以胜心血管个病症的信心。
第三、中医对治疗病症的原则特别强调必须以整体的治疗结合局部治疗存在的病症,如果我们把中國幾千年傳授下來的傳統治療法,如中國的腳部按摩療法,给吳氏的拔罐療法及經絡經穴按摩指壓療法,再把它結合中醫的基礎的理论及中医些治療法來治療心血管各病症,便可全面去調動分佈於雙腳部各反射區的積極工作功能及分佈於遍身的經絡經穴與神經系統神經細胞的功能,從而達到促進與增強血液的迴圈功能,改善增強體內各臟腑器官的工作功能,尤其是體內的消化系統功能,排泄功能及新陳代謝增強人體,自身便能有效把體內積聚的廢物和毒素的物質排出体外使到血液流行通暢,尤其是增強血中的白血球的排毒,免疫力功能,病症便會被逐步袪除,而對於一些體質較虛弱,免疫力低,體內存在著各種併發症症,還呈現在各臟腑器官的血管壁積聚有毒素質,瘀血,我們便兼用“刺络拔瘀血的療法” 即在體表上與這些臟腑器官有關聯的經穴處,積留物質的毒素瘀血,逐步被袪除,血管壁擴大,血液流行通暢,迴圈良好,細胞的再生力增強,便能去修整修補已損坏的組織結構,如關節部位的軟骨,筋等,存在的疾病,酸痛發炎便會被袪除。
这种剌络拔瘀血的治疗法。实际上就如现代西医生在人体的脏腑器管动手求开刀的治病与诤血疗法。 中国古代几千年前的医生,早就懂得这用些拔罐刺络拔瘀血的治疗法來祛除人体体內积聚有毒素的沉淀风湿邪物质。瘀血,肿瞄。而且这种治疗法不但功效高,还不附带任何危害性的副作用,是一种非常安全的治疗法,因它是通过人的体表的经穴与体内产生病症的脏腑器官的关联作用, 从中把个沉淀的毒素物质给予拔出清除体外 (图展示背部的心肺肝肾经穴另一安全感就是罐子内是处在真空的状态故外在的任何毒素物质,细菌是不能渗透进皮肤进人体内, 这种治疗法对患有糖尿病的患者都很安全。
在治疗过程我们还必需指导指示患者进食有关补血补肾的饮食料品和中草药外品,这方面中国人和中医都很拿手, 我就不多讲。 以上这种综合性的治疗法,对治疗心血管各病症如心脏病,肺病,消化系统不良便秘,头痛症,高低血压病症,糖尿病各关节部的酸痛,发炎,甚至些疑难杂症,都可取得奇高的功效效益可達到 80-90%,而剩下的一兩成就必须关照或指导指教患者自我保健,自我养身最重要的要求进行有恒的每天锻炼身体,注意饮食的卫生,生治有规律, 如果不嫌麻烦就指导指教病人学会自我按摩脚部及自我拔罐的操作法, 好让患者在结束疗程,治病后可以自我治疗, 存在些轻微的病症,便可使患者更迅连恢复身体健康。
以上是我在过去多年里曾帮众多患有各心血营病症的患者,臨床的实践中取得的些經驗在此提供大家作參考。