คุณสุรีรัตน์ บุญธรรม
อาการ ข้อต่อหัวไหล่เจ็บปวดอักเสบ ต้นคอแข็งตรึง ปวดเอว 2 เท้าปวดเมื่อย
คุณสุรีรัตน์ บุญธรรม อายุ 51 ปี เป็นพนักงานหน่วยงานฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะของกรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่กวาดขยะมูลฝอยตามถนนตามซอยในชุมชนมาเป็นเวลา 20 ปี 20 ปีที่ผ่านมาเวลาทำงานกวาดขยะตามถนนไม่สกิดใจที่จะใส่หน้ากาก เพื่อป้องกันมิให้ฝุ่นละออง แก๊ซสารพิษต่างๆ แทรกซึมเข้าไปในร่างกาย ประกอบกับ 20 ปีที่ผ่านมาระบบย่อยขับถ่ายในร่างกายของคุณสุรีรัตน์ไม่ปกติมาตลอด มีอาการท้องผูกบ่อยครั้ง ถึงแม้จะบริโภคยาแผนปัจจุบันหรือช่วงหลังเปลี่ยนมาบริโภคยาสมุนไพร แก้อาการท้องผูกมาตลอด รวมทั้งงดรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ โปรตีน แต่อาการที่มีอยู่ก็มิได้ถูกขจัดแก้ไขทุเลาดีขึ้น จากที่ระบบย่อยขับถ่ายไม่ปกติ ทำให้บริเวณรอบท้องจุกแน่นบ่อยครั้ง และยังส่งผลทำให้บริเวณรอบทรวงอกจุกแน่น ตามด้วย 2 ข้อมือและ 2 ข้อต่อหัวไหล่เจ็บปวดบริเวณต้นคอ 2 ด้านข้าง มีอาการแข็งตรึงแน่นทำให้หันซ้ายหันขวาไม่สะดวก 2 แขนปวดเมื่อยมาก อาการที่ปวดเมื่อยรุนแรงถึงขั้น ทำให้แขนขวาเกือบจะยกสูงไม่ขึ้น หรือไขว้มือไปข้างหลังไม่ได้ ร่างกายช่วงล่างก็ไม่ปกติ ปวดเมื่อยเอว อาการปวดเมื่อยได้ลามไปถึง 2 เท้าด้านข้างนอกของต้นขาน่องขาและ 2 ข้อเข่า หลายปีที่ผ่านมาหาแพทย์รับประทานยาแก้อาการระงับความเจ็บปวดต่างๆ ที่มีอยู่ แต่ก็มิได้ถูกขจัดแก้ไขทุเลาดีขึ้น ช่วงหลังหันไปใช้บริการนวดบำบัดโดยแพทย์แผนไทยโบราณ ได้ผลทุเลาผ่อนคลายเพียงชั่วครั้งชั่วคราว สุขภาพที่ทรุดโทรมอ่อนแอ พลังร่างกายที่อ่อนล้าลงไปเรื่อยๆ ยิ่งเพิ่มความกดดันด้านจิตใจ ทดลองใช้ดื่มกาแฟมากระตุ้นเพื่มพลังในการทำงาน ใหม่ๆ รู้สึกทำงานกระฉับกระเฉงดีขึ้น แต่ผ่านไปเวลาระยะหนึ่ง ร่างกายจะรู้สึกยิ่งอ่อนเพลียยิ่งอ่อนล้า เพิ่มการดื่มกาแฟจาก 1 แก้วเป็น 2 แก้วจนเพิ่มต่อวันถึง 3-4 แก้ว มาถึงต้นปี 2554 รู้สึกสุขภาพตนทรุดโทรมตกต่ำยิ่งรุนแรง และยังส่งผลทำให้เกือบทุกคืนนอนหลับไม่ดี หลับๆ ตื่นๆ ทุกคืนจะต้องตื่นลุกขึ้นปัสสาวะหลายครั้ง กลางคืนหลับนอนไม่พอ กลางวันอารมณ์หงุดหงิดบวกกับความดันโลหิตต่ำที่ยังไม่ทุเลา (คุณสุรีรัตน์มีความโลหิตต่ำมาต่อเนื่องหลายปี) ทำให้บางวันเกิดเวียนศรีษะ แต่งานการรับผิดชอบกวาดขยะมูลฝอยตามถนน ยังต้องทำต่อเนื่องทุกวัน ทุกก้าวเท้าที่เดินถือไม้กวาดขยะมูลฝอยตามถนนเพิ่มความกดดันและหนักหน่วงมากขึ้น จิตใจอารมณ์ยิ่งเคร่งเครียด ยิ่งกังวลห่วงใยสุขภาพของตนอาจผันแปรเป็นอาการอัมพฤกษ์ได้ทุกเมื่อ
วันที่ 4 มีนาคม 2554 คุณสุรีรัตน์ เดินทางเข้ามาในศูนย์เสริมสุขภาพเซิ่งกู่ ปรึกษาอาจารย์สุทัศน์ ว่าใช้แพทย์ทางเลือกสามประสานจะสามารถช่วยขจัดแก้ไขอาการเจ็บปวดไม่สบายต่างๆ ที่มีอยู่ได้ไหม จากการเช็คตรวจสุขภาพอย่างทัวหน้า อ.สุทัศน์ ได้วินิจฉัยอาการสุขภาพของคุณสุรีรัตน์ให้ฟังว่า ปัจจุบันสุขภาพร่างกายคุณสุรีรัตน์สูญเสียความสมดุลค่อนข้างมาก เลือดไหลเวียนตามหลอดเลือดติดขัดค่อนข้างรุนแรง ไร้ระเบียบ ไม่มีพลัง ไหลเวียนช้า ไม่สามารถหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้อวัยวะหลายๆ ส่วนในร่างกายทำงานพร่องประสิทธิภาพงานตกต่ำ เช่น ปอด หัวใจ ตับ ถุงน้ำดี กระเพาะอาหาร ลำไส้ต่างๆ ไต กระเพาะปัสสาวะ ฯลฯ โดยเฉพาะจุดลมปราณ 2 ข้างต้นคอ จุดลมปราณต๋าจุย เขตลมปราณปอด เขตลมปราณหัวใจ เขตลมปราณปอดบน เขตลมปราณปอดล่าง รวมทั้งข้อต่อ 2 ข้างหัวไหล่ 2 ข้างข้อมือของ 2 แขน หลังวางถ้วยดูด สีผิวที่สะท้อนออกเป็นสีดำคล้ำ นวดกดสัมผัสถูกรู้สึกเจ็บปวด สะท้อนถึงมีของเสียสารพิษลิ่มเลือดเกาะติด รวมทั้งบริเวณเอว เขตลมปราณที่เกี่ยวสัมพันธ์กับกระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก และไต กระเพาะปัสสาวะ สีผิวแดงเข้มสะท้อนถึงผนังหลอดเลือดที่หล่อเลี้ยงอวัยวะเหล่านี้ มีของเสียสารพิษเกาะติดทำให้เลือดไหลเวียนผิดระเบียบ ประสิทธิภาพงานบกพร่อง อาการผิดปกติต่างๆ ที่สะท้อนออกมา บ่งบอกถึงสาเหตุหลักที่ทำให้สุขภาพของคุณสุรีรัตน์ ทรุดโทรมอ่อนแอภูมิคุ้มกันตกต่ำ อ.สุทัศน์บอกคุณสุรีรัตน์ว่า ใช้แพทย์ทางเลือกสามประสานจะสามารถช่วยให้อาการเจ็บปวดไม่สบายต่างๆ ทยอยทุเลาหายดี แต่คุณสุรีรัตน์ต้องมีความมั่นใจมีความอดทนเข้ามารับการบำบัดต่อเนื่องทุกวัน ( เว้นอาทิตย์) อาจจะใช้เวลาทำการบำบัดต่อเนื่องถึง 3-4 คอร์ส (คอร์ส ละ 10 ครั้ง) แต่ก่อนอื่นให้คุณสุรีรัตน์ต้องหยุดการดื่มกาแฟทันที เนื่องจากช่วงนี้ภูมิคุ้มกันของคุณสุรีรัตน์ค่อนข้างอ่อนแอถ้ายังดื่มกาแฟต่อเนื่อง สารกาแฟอินที่บั่นทอนประสิทธิภาพงานของไตต่อเนื่อง นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพงานของไตยิ่งตกต่ำ ภูมิคุ้มกันจะยิ่งอ่อนแอลง
ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2554 ตลอดถึงวันที่ 30 เมษายน 2554 ที่คุณสุรีรัตน์รับการบำบัดโดยแพทย์ทางเลือกสามประสานจากอ. สุทัศน์ อ.สุทัศน์ได้ใช้วิธีนวดฝ่าเท้าประสานกับการนวดกดจุดลมปราณ และประสานกับการวางถ้วยดูดระบบสุญญากาศ ทำการบำบัดอาการโรคอย่างทั่วหน้าควบคู่กับการเน้นขจัดแก้ไขอาการโรคหลัก โรคเฉพาะไปพร้อมกัน ได้ทยอยขจัดของเสียสารพิษต่างๆ ออกจากตามจุดลมปราณ ตามอวัยวะต่างๆ ที่เลือดลมไหลเวียนติดขัด และยังได้นำเข็มเฉพาะเคาะตีจุดลมปราณและบริเวณผิวหนังตามข้อต่อต่างๆ มีลิ่มเลือดเกาะติดและทยอยดูดลิ่มเลือดออกจากบริเวณต่างๆ ดังกล่าว รวมทั้งที่ทรวงอกบริเวณ 2 ข้างเต้านม ยังได้วางถ้วยดูดและทยอยขจัดตุ่มน้ำเหลือง (เสีย) ตุ่มลิ่มเลือด ออกจากบริเวณดังกล่าว หลังจากของเสียสารพิษต่างๆ รวมทั้งลิ่มเลือดได้ทยอยถูกขจัดออกจากตามจุดลมปราณ ตามข้อต่อตามอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย การไหลเวียนของเลือดลมในหลอดเลือดก็ถูกปรับเข้าสู่การไหลเวียนอย่างมีระเบียบ มีประสิทธิภาพ ไหลเวียนอย่างมีพลัง อวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายและกลไกระบบต่างๆ ก็ทยอยฟื้นฟูกลับมาปฏิบัติหน้าที่งานมีประสิทธิภาพขึ้น อาการเจ็บปวดหรือกระทั่งเกิดอาการอักเสบตามข้อต่อต่างๆ ตามอวัยวะต่างๆ ก็ทยอยถูกขจัดแก้ไขทุเลาดีขึ้น ต้นคอไม่แข็งตรึง แขนขวาสามารถยกสูงขึ้นได้และสามารถไขว้มือไปข้างหลังได้อย่างปกติ ไม่ปวดเอว อาการปวดเมื่อย 2 เท้า รวมทั้ง 2 ข้อเท้าทุเลาดีขึ้นมาก กลางคืนหลับนอนได้ดี หลับนอนได้ลึกได้ยาว ความดันต่ำทยอยถูกปรับเข้าสู่ความดันปกติ ไม่เกิดอาการเวียนศีรษะอีก ระบบย่อยขับถ่ายถูกปรับปรุงดีขึ้น ไม่เกิดมีอาการท้องผูก ทานอาหารทานข้าวเพิ่มขึ้น (ที่ผ่านมาบ่อยครั้งคุณสุรีรัตน์จะทานข้าวเพียง 1 มื้อ ช่วงนี้สามารถทานข้าวปกติวันละ 3 มื้อ น้ำหนักเพิ่มขึ้นหลายกิโลกรัม กลางวันทำงานมีพลังกระฉับกระเฉงดีขึ้นมาก วันจบคอร์สบำบัด อ. สุทัศน์ยังได้สอนชี้แนะคุณสุรีรัตน์เรียนรู้นำถ้วยดูดไปทำการวางดูดต่อเนื่องตามข้อต่อต่างๆ เพื่อดูดแก๊ซของเสียความชื้นออกจากบริเวณข้อต่อต่างๆ เป็นวิธีการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรงต่อเนื่อง
อาจารย์สุทัศน์ กุลสันติพงศ์ ถ่ายรูปกับ คุณสุรีรัตน์