สำนักงานแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยมหิดล ให้เชิญอาจารย์สุทัศน์ มาอบรมและบรรยายโดยมีหลักการและเหตุผลดังนี้
หลักสูตรการนวดฝ่าเท้า กดจุดลมปราณและครอบกระปุก
ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 16-21 พฤศจิกายน 2552 ณ โรงแรมนนทบุรีพาเลซ
หลักการและเหตุผล
สืบเนื่องจากแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 10 พ.ศ.2550-2554 มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของประชาชน ในการพึ่งตนเองในด้านการดูแลสุขภาพ โดยมีเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาระบบการเรียนรู้ และการจัดการความรู้ด้านการแพทย์ทางเลือกให้มีมาตรฐาน ซึ่งเป็นบทบาทภารกิจหลักของกองการแพทย์ทางเลือก กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
ปัจจุบันพบว่า ประชาชนให้ความสนใจนำศาสตร์การแพทย์ทางเลือกมาใช้ในการดูแลสุขภาพมากขึ้น การนวดฝ่าเท้าประสานนวดกดจุดลมปราณและครอบกระปุก ถือเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ เป็นการผสมผสานศาสตร์การแพทย์แผนจีนซึ่งถือว่าเป็นการแพทย์ที่ปลอดภัย มีประสิทธิผลและประหยัด ซึ่งผู้รับบริการทางการแพทย์นิยมเลือกวิถีการรักษาโรคของตน ตามคำประกาศสิทธิของผู้ป่วยข้อ 3 ที่ระบุให้ผู้ป่วยมีสิทธิทราบวิธีการรักษาโรคของตนจากแพทย์ และเป็นผู้เลือกการรักษาเอง สิทธิข้อ 6 ระบุว่าผู้ป่วยมีสิทธิปรึกษาบุคคลที่สามได้ ซึ่งผู้ดูแลสุขภาพประชาชนให้ประเทศไทยจึงต้องมีความรู้กว้างขวางหลากหลายศาสตร์ผสมผสานกัน
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการดูแลสุขภาพของประชาชน จึงเห็นสมควรเปิดการเรียนการสอนหลักสูตรการนวดฝ่าเท้าประสานนวดกดจุดลมปราณและครอบกระปุกขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว
โครงการอบรมหลักสูตร
"การใช้ศาสตร์การแพทย์แผนจีน การนวดฝ่าเท้า การกดจุดลมปราณและครอบกระปุก รักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ท้องผูก และกรดไหลย้อน"
ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 6-10 และ 13-16 กันยายน 2553 ณ โรงแรมนนทบุรีพาเลซ
หลักการและเหตุผล
ศาสตร์การแพทย์ทางเลือก ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมสุขภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ในการบำบัดอาการของโรคบางโรคได้ และยังเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังบางโรคที่การแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถบำบัดอาการและความต้องการบางอย่างของผู้ป่วยได้ เพราะในความเป็นศาสตร์และศิลป์ของการแพทย์ทางเลือก จึงมีการใช้มายาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ จวบจนปัจจุบันก็มีการนำศาสตร์การแพทย์ทางเลือกมาใช้ในการดูแลสุขภาพและใช้ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อการรักษาโรคมากขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมให้มีการพึ่งพาตนเองในการดูแลสุขภาพแบบพอเพียงที่ควรส่งเสริมให้เกิดขึ้นในประชาชน
การรักษาโดยศาสตร์แพทย์แผนจีน เน้นหลักการรักษาแบบองค์รวม ปรับภาวะให้ร่างกายเกิดสมดุล การนวดกดจุดเริ่มจากการนวดฝ่าเท้า เพื่อปรับสมดุลการทำงานของอวัยวะภายในต่างๆ ตามเขตสะท้อนที่กระจายอยู่ที่ฝ่าเท้าทั้งสองข้าง อาการเจ็บบริเวณฝ่าเท้าเป็นสัญญาณบอกว่าการทำงานของอวัยวะนั้นๆ เกิดปัญหาตามหลักการแพทย์แผนจีน การนวดฝ่าเท้ามักทำควบคู่กับการนวดกดจุดตามเส้นลมปราณตามร่างกาย เพื่อช่วยกระตุ้นให้เซลล์ประสาทและระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น การครอบกระปุกสามารถทำผสมผสานกับการนวดกดจุด หลักการคือการใช้ถ้วยดูดระบบสุญญากาศ ครอบบริเวณตามเส้นลมปราณและจุดลมปราณที่เจ็บปวด ความกดดันของสุญญากาศจะดึงดูดผิวหนังให้นูนสูงขึ้น ถือเป็นการผลักดันให้เลือดลมไหลเวียนเข้ามาหล่อเลี้ยงบริเวณนั้นๆ ได้มากขึ้น อีกทั้งช่วยกำจัดสารพิษ สิ่งแปลกปลอม และของเสียต่างๆ ออกจากผนังหลอดเลือดด้วย ช่วยให้อวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างสมดุลเป็นปกติ
โรคทางระบบทางเดินอาหาร นอกจากโรคติดเชื้อ ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง โรคบิด โรคอหิวาตกโรคแล้ว ยังมีกลุ่มโรคไม่ติดต่อหลายโรคซึ่งเป็นโรคเรื้อรัง รักษาไม่หายขาด ได้แก่ โรคกระเพาะอาหาร อาการท้องผูก โรคภาวะกรดไหลย้อน ผู้ป่วยมักจำเป็นต้องได้รับยาเพื่อการรักษาอาการติดต่อกันเป็นเวลานาน ดังนั้นการดูแลส่งเสริมสุขภาพ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ถือว่ามีความสำคัญ หากได้รับการนำศาสตร์การแพทย์ทางเลือกมาใช้เพื่อการส่งเสริมสุขภาพ และใช้ร่วมกับการรักษาโรคกับการแพทย์แผนปัจจุบัน จึงน่าจะก่อเกิดประโยชน์สุงสุดต่อผู้ป่วย
นอกจากนี้เจตจำนงของแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 10 พ.ศ. 2550-2554 ที่มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพของประชาชนในการพึ่งพาตนเองในด้านการดูแลสุขภาพ โดยมีเป้าประสงค์เชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาระบบการเรียนรู้ และการจัดการความรู้ด้านการแพทย์ทางเลือกให้มีมาตรฐานนั้น ดังนั้นจึงมีความจำเป็นในการพัฒนาบุคคลากรที่เป็นผู้ให้บริการ โดยใช้ศาสตร์แพทย์ทางเลือกให้มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองเป้าหมายดังกล่าว จึงเห็นสมควรให้มีการจัดโครงการอบรมหลักสูตรดังกล่าวเกิดขึ้น