หน้าแรก
บทความ
เว็บบอร์ด
รวมรูปภาพ
คลิปวีดีโอ
ติดต่อเรา
บทความ
บทความนี้ เป็นทัศนะความคิดเห็นส่วนตัวผม ยินดีร่วมวิเคาะห์ศึกษาด้วยกัน
หัวใจเป็นเจ้าแห่งเลือด เป็นต้นทางของเลือด หัวใจจะสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะทุกส่วน รวมทั้งเนื้อเยื่อ กระดูกผิวหนังในร่างกาย อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้อวัยวะทุกส่วนในร่างกาย สามารถปฎิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาความสมดุลของร่างกาย แต่ถ้าหากหัวใจทำงานบกพร่อง มีอาการผิดปกติ อาจเกิดจากโคงสร้างส่วนประกอบของหัวใจส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือหลายๆ ส่วน ทรุดโทรมชำรุด จนทำให้เลือดไหลเวียนหล่อเลี้ยงหัวใจติดขัด หัวใจ ไม่สามารถสูบฉีดเลือด ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย อย่างมีพลัง อวัยวะมิได้รับเลือดมาหล่อเลี้ยงอย่างปกติสม่ำเสมอ ถึงระยะเวลาหนึ่ง โครงสร้างส่วนประกอบของอวัยวะ ดังกล่าว ก็จะเกิดทรุดโทรมชำรุ จนทำให้อวัยวะเกิดอาการบกพร่องเจ็บป่วยไม่สบายตามมา ก่อเกิดอาการตีบของหลอดเลือด (หลอดเลือดสกปรก) และก่อเกิดวงจรวิบากของการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไร้ระเบียบ ไร้พลัง และส่งผลทำให้ผนังหลอดเลือดของหัวใจเกิดมีของเสียสารพิษ รวมทั้งลิ่มเลือดเกาะติดสะสมเพิ่มมากขึ้น หรือกระทั่งอุดตันบริเวณที่ใดที่หนึ่งของหัวใจ จนเสี่ยงเกิดอาการวูบหรือกระทั่งเสียชีวิตตามมา
เราจะสังเกตุและเช็คตรวจยังไง ว่าหัวใจเริ่มมีอาการผิดปกติบกพร่อง หรืออาการรุนแรงต้องเอาใจใส่เป็นพิเศษ
1 ติดตามสังเกตุจากความดันโลหิตสูง ที่คงสูงต่อเนื่อง ถ้าหากความดันตัวบนเกิน 150-160 หรือกระทั่ง 170-180 ขึ้นไป ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษ รีบปรึกษษหาหนทางปรับลง
ความดันตัวล่างต่ำมากไปก็ไม่แกติ อย่างเช่นถ้าต่ำกว่า 60 ก็ต้องสนใจ อาจสะท้อนถึงอาการของเลือดพร่อง
2. ติดตามสังเกตุอาการเต้นของชีพจร ชีพจรปกติครวอยู่ระหว่าง 70-75 ไม่ครวเกิน 80 หรือต่ำกว่า 60 ถ้าชีพจรเต้นเร็วเกิน 90-100 สะท้อนถึงหัวใจคุมชีพจรไม่อยู่ เต้นต่ำไปก็ไม่ดี อาจสะท้อนเลือดพร่อง แต่สำหรับนักกีฬาและ ผู้สูงวัยที่สุขที่สุขภาพร่างกายแข็งแรง ชีพจรเต้นต่ำเป็นปกติ
3. สังเกตุจากอาการของรอบทรวงอก ถ้าหากรอบทรวงอกมีอาการแน่นเจ็บปวดบ่อยครั้ง ไม่เพียงสะท้อนถึงกล้ามเนื้อทรวงอก เจ็บปวดอักเสบยังสะท้อนถึงอาการพร่องของปอด หัวใจ
4. กลางคืนนอนหลับ ไม่ดีบ่อยครั้ง มีอาการเวียนศรีษะบ่อยครั้ง หรือกระทั่งเกิดมีอาการหน้ามืด คล้ายจะวูบหรือเกิดมีอาการวูบ
วิธีบำบัดอาการโรคหัวใจ มีหลากหลายวิธีการ
ทัศนะคติของผม
- ควรทำการบำบัดทั่วหน้า ควบคู่กับการบำบัดขจัดอาการโรคเฉพาะ (หัวใจ ไปพร้อมกัน )
ความหมายคือต้องบำบัดอาการบกพร่อง เจ็บปวดไม่สบายของอวัยวะส่วนอื่น ๆ ไปพร้อมกัน อย่างเช่น ปอด ไต หรือส่วนอื่น ๆ ฯลฯ เพื่อขจัดอาการตีบ เลือดไหลเวียนติดขัดในหลอดเลือด ถ้าหากเช็คตรวจวินิจฉัย พบผนังหลอดเลือดของหัวใจมีของเสีย สารพิษหรือลิ่มเลือดเกาะติดสะสมอยู่ เป็นสาเหตุเกิดอาการเจ็บป่วยไม่สบายของหัวใจ ถ้าหากใช้วิธีบำบัดที่สามารถ ดึงดูดและขจัดของเสียสารพิษ ลิ่มเลือดทยอยออกจากผนังหลอดเลือดโดยตรง และขับออกจากร่างกาย เพื่อให้เลือดที่ดีที่มีคุณค่า กลับเข้ามาหล่อเลี้ยง เข้าสู่ปกติ โครงสร้างส่วนประกอบของหัวใจที่เคยเสื่อมโทรม ชุรุ ก็จะทยอยถูกบูรณะเสริมสร้างใหม่ จนทยอยปรับเข้าสู่โครงสร้างปกติ หัวใจก็จะสามารถกลับมาประกอบหน้าที่งานที่มีประสิทธิภาพ อาการเจ็บป่วยไท้สบาย หรือรุนแรง ก็จะทยอยทุเลาหายดีได้