เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สวนรมณียนาจ วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2561
ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ 6 โมงกว่า ผมกำลังรำมวยไท้เก็กกับเพื่อนอยู่ อาจารย์ สมบูรณ์ เพชรชมรัตน์ วิ่งมาหาผมด้วยอาการตื่นเต้น บอกให้รีบไปช่วยเพื่อนอาวุโสท่านหนึ่ง นั่งร่วมร้องเพลงอยู่ จู่ๆ เกิดหน้ามืด วูปอยู่กับที่ ผมสัมผัสร่างกายของผู้ป่วย 2 ข้างมือเท้า และ ลำตัว เย็นไปหมดลำตัวอ่อนปวกเปียกทรงตัวไม่อยู่จะล้มท่าเดียว (ดีที่มีเพื่อนข้างๆพยุงไว้ได้) 2 ข้างตาปิดสนิท น้ำลายไหลออกจากปากไม่รู้ตัว คนที่ล้อมอยู่ สันนิฐานว่าผู้ป่วยคงเสียชีวิตไปแล้ว ผมยังตั้งสติได้ดีรีบ จับแขนแขนด้านซ้ายมากดนวดจุดลมปราณต่างๆ เกี่ยวกับปอด และหัวใจ ที่จุด ฉื่อเจ๋อ เน่ยกวาน เหลากง จี๋เฉวียน เส้าไห่
จากนั้นก็ไล่นวดกดจุดที่แผ่นบริเวณหลังร่างกายช่วงบนของจุด ต้าจุ้ย (ชึ่งเป็นจุดศูนย์รวมประสาทกลางและศูนย์รวมลมปราณหยางในร่างกาย ตามด้วยที่ 2 จุดลมปราณ 2 ข้างต้นคอ จุดลมปราณที่บ่า 2 ข้าง จุดลมปราณเกี่ยวกับปอดและหัวใจ จากนั้นขยับไปนวดกดจุด 2 จุดลมปราณฟงฉือ 2 ข้างหู จุดลมปราณฟงฟู่ที่อยู่กึ่งกลาง และจุดลมปราณสุงสุดที่ศรีษะไป่หุย ช่วงเวลาผมนวดกดจุด ผ่อนคลายความตึงแข็งรอบศรีษะของผู้ป่วย ทั้งผมและคนรอบข้างได้ยินเสียงเรอของผู้ป่วยผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นทันที่ที่รู้ว่า ผู้ป่วยเริ่มรู้สึกตัวแล้วจากนั้นนวดอีกสักพัก 2 ข้างตาผู้ป่วยก็เริ่มเปิด และมีน้ำเสียงออกมาจากลำคอว่า อั๊วไม่เป็นไรแล้ว ผู้ป่วยฟื้นตัวแล้ว ทุกคนไชโยดีใจ
สาเหตุที่ผมตั้งสติ ช่วยปฐมพยาบาลผู้ป่วยเพราะ ผู้ป่วยพึ่งหน้ามืด วูปไม่รู้สึกตัว แต่ลมหายใจยังมีอยู่ เชลล์ประสาท เส้นลมปราณ จุดลมปราณยังทำงานอยู่ เลือดยังไหลเวียนอยู่ แค่ไหลเวียนช้ามาก เพราะจุดลมปราณต่างๆถูกล็อกไว้ โดยเฉพาะเกี่ยวกับปอดหัวใจ และศรีษะ ส่งผลจากการที่เรานวดกดจุด ผ่อนคลายอาการจุดลมปราณต่างๆที่ล็อกอยู่ เชลล์ประสาทจุดลมปราณเขตสะท้อนถุกกระตุ้นให้ทำงานกระฉับกระเฉงเลือดในร่างกายไหลเวียนดีขึ้น โดนเฉพาะที่ ปอด และ หัวใจ เลือดสูบฉีดมีพลังขึ้น ตามจุดต่างๆ ที่ถูดล็อกไว้ก็ทยอยคลาย ผู้ป่วยก็ตื่นขึ้นมา
อย่าไปรอจนผู้ป่วยสิ้นลมหายใจแล้ว ค่อยไปช่วยปฐมพยาบาล บางครั้งอาจจะสายเกินแก้