โรคหัวใจภัยเงียบคร่าชีวิตชาวโลก ซึ่งถูกจัดอยู่ระดับรองจากมะเร็ง เฉพาะในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2558 ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ 58,681 คน และสิ่งที่น่าห่วงยิ่งคือ อาการโรคหัวใจและผู้คนเสียชีวิตด้วยโรคนี้นับวันจะเกิดกับคนหนุ่มสาว และคนวัยกลางเพิ่มมากขึ้น สาเหตุเพราะอะไร ทำไมในสังคมปัจจุบันจึงมีผู้คนเป็นโรคหัวใจมากมาย
ตามทัศนะคติของผมมีส่วนเกิดจาก
1. ผู้คนส่วนมากในสังคมปัจจุบันมีสุขภาพภูมิคุ้มกันตกต่ำ เลือดไหลเวียนในหลอดเลือดไร้ระเบียบไร้ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบุคคลที่ยังไม่สนใจตื่นตัวดูแลเสริมสร้างสุขภาพของตน ดำเนินชีวิตไร้ระเบียบไร้ประสิทธิภาพ ง่ายก่อเกิดอาการโรคร้ายตามมา (รวมทั้งโรคหัวใจ)
2. หัวใจเป็นเจ้าเลือด หัวใจต้องปั๊มบีบเลือดเข้าสู่หลอดเลือด เพื่อไปหล่อเลี้ยงอวัยวะทุกส่วนในร่างกาย ฉะนั้นหัวใจจึงมีเกี่ยวสัมพันธ์กับอวัยวะต่างๆ ทุกส่วนในร่างกาย ถ้าอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหรือหลายๆ ส่วนในร่างกายมีอาการเจ็บป่วยบกพร่องทำให้เลือดไหลเวียนหล่อเลี้ยงติดขัด ก็จะทำให้เลือดไหลเวียนอยู่ในหลอดเลือดทั่วระบบ สูญเสียความสมดุลไหลเวียนช้าอ่อนกำลังลง และจะไปกระทบกระเทือนถึงหัวใจ พลอยทำให้ผนังหลอดเลือดหัวใจมีของเสียสารพิษ หรือกระทั่งเลือดเสียทยอยเกาะติดสะสมนานวัน ผนังหลอดเลือดหัวใจจะยิ่งแคบลง หรือกระทั่งก่อเกิดเป็นลิ่มเลือดหรือก้อนเนื้อ เนื้อร้าย ทำให้เลือดไหลเวียนหล่อเลี้ยงสดุดหรือกระทั่งอุดตัน ก็จะก่อเกิดเป็นโรคหัวใจหรือหัวใจล้มเหลว ตามมา
ฉะนั้นถ้าหากผู้ใดมีความรู้สึกร่างกายมีอาการบางสิ่งที่ผิดปกติ เช่น รอบทรวงอกแน่นเจ็บปวดบ่อยครั้ง ความดันโลหิตสูงเกินควร หรือต่ำเกินควร การเต้นของหัวใจเต้นเร็วมากผิดปกติ หรือเต้นช้าจนผิดปกติ หายใจไม่โล่ง ชอบมีอาการเวียนศีรษะ หรือกระทั่งรู้สึกคล้ายบ้านหมุนจนจะวูบ บ่อยครั้งกลางคืนจะหลับนอนไม่ดี ยังบวกกับมีอาการปวดต้นคอ บ่า ไหล่ ซึ่งเป็นอาการสัญญาณบ่องบอกเราว่า หัวใจเริ่มมีปัญหาแล้ว ต้องรีปรึกษาแพทย์ให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านหัวใจ เช็คตรวจและบำบัดแก้ไขก่อน ก่อนที่จะสายเกินแก้ไข
กรณีของคุณอาเรศ หัวใจเต้นเพียง 29 ครั้ง/นาที
คุณอาเรศ ปราบพยัตฆา วัย 60 ปี (ปี พ.ศ. 2556) ผู้เคยป่วยด้วยภาวะหัวใจเต้นช้า 29 ครั้งต่อนาที ชีวิตในวัยหนุ่มคุณอาเรศเป็นนักกีฬาและครูผู้ฝึกสอนอยู่ในสโมสรกีฬาแห่งหนึ่ง จนกระทั่งช่วงวัย 50 ปีเปลี่ยนชีวิตและอาชีพเดินทางไปทำงานในไร่กีวี่ประเทศนิวซีแลนด์
จากที่ไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศ สิ่งแวดล้อมในต่างแดน และวิธีดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการทำงานอยุ่ในไร่กีวี่ต้องสัมผัสกับการใช้ยาเคมี ฆ่าเชื้อฆ่าแมลง สูบสารเคมีสารพิษเข้าในปอดในร่างกายบ่อยครั้ง ผ่านไปเพียง 2 – 3 ปี คุณอาเรศ ก็รู้สึกร่างกายตนมีอาการผิดปกติหลายอย่างเกิดขึ้น เช่น รอบทรวงอกจะแน่นเจ็บปวด หายใจไม่โล่ง ระบบย่อยขับถ่ายไม่ปกติ จุกเสียดแน่นท้อง ลำตัวรู้สึกอ่อนล้า เริ่มมีอาการปวดไหล่ บ่า ข้อศอก ทำให้กลางคืนหลับนอนไม่ดี ถึงแม้คุณอาเรศจะเคยไปเช็คตรวจสุขภาพในโรงพยาบาลนิวซีแลนด์หลายครั้ง แต่แพทย์ก็หาสาเหตุไม่พบเพียงแต่ให้ยาระงับอาการมาให้รับประทาน เวลายิ่งผ่านไปอาการเจ็บปวดผิดปกติต่างๆ ในร่างกายยิ่งเพิ่มทวีมากขึ้น จนมีความรู้สึกว่าตนจะสู้ทนต่อไปไม่ได้อีก จึงขอลาหยุดงานกลับประเทศไทย ทันทีกลับถึงประเทศไทยก็รีบเดินทางไปเช็คตรวจสุขภาพโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพ แพทย์พบเพียงหัวใจเต้นค่อนข้างช้าและจ่ายยาให้รับประทาน จากนั้นก็ได้เดินทางไปบ้านเกิดที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีอยู่คืนหนึ่งนอนหลับไม่ดีทั้งคืน หายใจติดขัด รอบทรวงอกแน่นเจ็บปวดมาก ถึงขนาดแทบจะแตกสลาย ญาติรีบส่งเข้าโรงพยาบาลและห้อง CCU จากการเช็คตรวจสุขภาพ แพทย์พบว่าหัวใจเต้นช้ามากเต้นเพียง 29 ครั้ง / นาที และได้จัดยาแก้อาการให้รับประทาน พร้อมติดตั้งเครื่องปรับการเต้นของหัวใจที่ทรวงอกด้ายซ้าย พร้อมกำชับเช็คตรวจสุขภาพทุก 6 เดือน ถึงแม้การเต้นของหัวใจจะดีขึ้น แต่ยังไม่ได้เกณฑ์ปกติ โดยเฉพาะอาการเจ็บปวดอักเสบตามปอด หัวใจ ข้อต่อต่างๆ ตามบริเวณร่างกาย ก็มิได้ทุเลาหายดี ยังรู้สึกหายใจไม่โล่ง เวลาผ่านไปหลายปีรู้สึกร่างกายยิ่งอ่อนล้าเพลียไปทั่วร่างกาย
วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556 คุณอาเรศได้เดินทางมาที่ศูนย์สุขภาพเซิ่งกู่ผม เพื่อให้ใช้แพทย์ทางเลือกขจัดแก้ไขอาการผิดปกติตามอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย จากการเช็คตรวจสุขภาพทั่วหน้า และวินิจฉัยผมบอกคุณคุณอาเรศว่า ช่วงนี้ทั่วร่างกายเสียสูญค่อนข้างมาก เลือดไหลเวียนติดขัดตามบริเวณอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะจากการวางครอบถ้วยดูด สีผิวของจุดลมปราณที่เกี่ยวสัมพันธ์กับปอด หัวใจ ตับ กระเพาะอาหาร ไต และข้อต่อต่างๆ เช่น ข้อต่อหัวเข่า ไหล่ บ่า ต้นคอ ข้อศอก ฯลฯ สะท้อนออกเป็นสีดำคล้ำ และสัมผัสถูกอาการเจ็บปวดสะท้อนถึงอวัยวะต่างๆมีของเสียสารพิษ และลิ่มเลือดเกาะติดสะสม โดยเฉพาะที่ปอดและหัวใจ จะมีของเสียสารพิษเกาะติดมากเป็นพิเศษ ผมจึงได้ใช้แพทย์ทางเลือกสามประสานทำการบำบัดทั่วหน้า โดยการนวดฝ่าเท้าประสานนวดกดจุดลมปราณและวางครอบถ้วยดูด และได้นำเข็มเฉพาะมาเจาะแทงจุดลมปราณ บนผิวหนังที่เกี่ยวสัมพันธ์กับอวัยวะและข้อต่อต่างๆ ที่สะท้อนออกมีอาการผิดปกติรุนแรง โดยเฉพาะมีของเสีย สารพิษเกาะติดอยู่ และทยอยดูดของเสียสารพิษลิ่มเลือดออกจากบริเวณต่างๆ ดังกล่าว ของเสียสารพิษลิ่มเลือดถูกขจัดออกจากผนังหลอดเลือดของอวัยวะและตามข้อต่อต่างๆ ผนังหลอดเลือดขยายกว้างขึ้นเลือดกลับเข้ามาไหลเวียนหล่อเลี้ยงเข้าสู่ปกติ โครงสร้างส่วนประกอบที่ทรุดโทรม ชำรุดก็จะถูกบูรณะเสริมสร้างใหม่ เช่น หมอนรองกระดูก เส้นเอ็น ฯลฯ อาการเจ็บปวดอักเสบที่มีก็จะทยอยทุเลาดีขึ้น ใช้เวลาบำบัดต่อเนื่อง 20 กว่าวัน จนของเสียสารพิษลิ่มเลือดตามบริเวณอวัยวะข้อต่อต่างๆ ถูกขจัดดึงดูดออกสุขภาพร่างกายของคุณอาเรศก็พลิกปรับตัวดีขึ้น ความดันปกติ หัวใจเต้น 70-75/นาที ระบบย่อยขับถ่ายดีขึ้น ข้อต่อต่างๆ ก็ทุเลาหายดี ก่อนจบครอ์สของการบำบัดผมได้ชี้แนะและสอนให้คุณอาเรศเรียนรู้ วิธีนวดฝ่าเท้าและวางครอบถ้วยดูดด้วยตนเอง เพื่อหลังจบคอร์สแล้วนำไปเสริมสร้างสุขภาพและบำบัดแก้ไขอาการเจ็บปวดเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังมีอยู่
ปัจจุบัน 5 ปีได้ผ่านไปคุณอาเรศโทรรายงานผมว่าสุขภาพปกติดีมาก ทุกวันวิ่งออกกำลังกายเป็นประจำ